Inside
Man : ลวงแผนปล้น คนในปริศนา
เรื่องย่อของภษพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ
ดาลตั๊น รัสเซล (ไคลฟ์โอเว่น) เป็นหัวหน้าโจร นำลูกทีมอีก 3 คนเข้าปล้นธนาคาร
ซึ่งมี อาเธอร์ เคส (คริสโตเฟอร์
พลัมเมอร์) เป็นเจ้าของ โดยที่ทีมปล้นนี้ไม่ได้ต้องการเงิน
แต่ต้องการสิ่งที่อยู่ในเซฟนิรภัยของธนาคาร ซึ่งมีความลับบางอย่างถูกเก็บรักษาไว้
ทางด้าน นักสืบ คีธ เฟรเชียร์ (แดนเซล วอชิงตัน) ซึ่งกำลังมีปัญหาเรื่องความโปร่งใส ทำให้หน้าทีการงานสะดุด
ได้รับมอบหมายให้ไปจัดกสนคดีนี้ โดยที่มี เมเดไลน์ ไวท์ (โจดี้
ฟอสเตอร์) มาแทรกแซงการปฏิบัติภารกิจนี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ ปมค่อนข้างหวือหวา
ในด้านการวางแผน ซึ่งถ้าได้ดูแล้วผู้ชมคงนึกตามในใจว่า “ฮืมม” มันคิดได้ไง มันคิดเยอะดี
คือฝ่ายผู้ร้ายมันเท่ห์จนอยากเอาใจช่วยให้มันปล้นสำเร็จ ขนาดนั้นเลย
วิธีการปล้นมัน เท่ห์มาก รวมถึงปมที่ซ่อนอยู่ในหนังที่ค่อย ๆ คลายมาทีละเปลาะ ๆ
ก็ทำให้รู้ลุ้นตามไปเรื่อย ๆ อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
หรือรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มันอืด ทั้ง ๆ ที่ pacing
ของหนังมันไม่ได้เร็วแบบกระฉับกระเฉงเหมือนหนังแอ๊คชั่น ปล้นธนาคารทั่วไป
รวมไปถึงการปูพื้น และความลึกของตัวละครได้อย่างดี
ไดอะล็อค ในเรื่องนี้ล้วนแต่มีความคมคาย
พูดจากันหลายแบบหลายสไตล์ แล้วแต่สถานการณ์ ทั้งแสลง คำส่อเสียด คำเหยีด คำประชด
และคำเปรียบเปรย
การเล่าเรื่องแบบตัดสลับย้อนเหตุการณ์เพื่อให้หนังไม่
นิ่ง จนเกินไป เป็นการตัดต่อที่เข้ากับการเล่าเรื่องแบบที่ผู้กำกับตั้งไว้
เพลงประกอบและโปรดักชั่นที่ดูดี ดูเหมาะสม
ส่วนเนื้อเรื่องยัง พูดถึง การเหยียดเพศ เหยียดสีผิว เหยียดเชื้อชาติ
การไม่เคารพในสิทธิส่วนบุคคล หรือแม่แต่ในฐานะมนุษย์ด้วยกัน
แล้วอ้างว่าทำไปด้วยเหตุจำเป็น ต่าง ๆ การทำร้ายผู้บริสุทธิ์ และยัง มีการเล่นมุก ตลกขบขัน
มากมายในเรื่อง มีการแซวเด็กวัยรุ่นอเมริกัน กับความรุนแรง เป็นภาพยนตร์ สะท้อนสังคม
ที่ดีครับ แม้ตัวหนังจะไม่ค่อยสมจริง ในเทคนิคการปล้น บางอย่างก็ตาม
ไม่มีอะไรซับซ้อนเกินความเข้าใจเลย
แนวคิดของหนังยืนอยู่บนความเป็นจริงของสังคมปัจจุบันในประเทศสหรัฐอเมริกา
และยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นมนุษย์นั่นก็คือ มีคนดี มีคนไม่ดี (เลว)
ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าจะมีใครกล้าที่จะยืดอกแสดงออกมาอย่างสง่าผ่าเผยหรือไม่
สถานการณ์จะคลี่คลายไปทางใด
และแผนการเหนือชั้นของฝ่ายผู้ร้ายจะเหนือเมฆขนาดไหน
ส่วนฝ่ายตำรวจจะไล่กวดด้วยวิธีใด ตลอดจนใครจะชนะใคร และผู้แทรกแซงจะมีบทบาทแค่ไหน
สุดท้ายเรื่องราวจะออกมาในทิศทางใด คอหนังส่วนใหญ่คงจะชอบเรื่องนี้
แน่ๆ แต่ต้องตั้งใจดูให้ดี หน่อย อย่าเสียสมาธิง่าย ๆ
ไม่งั้นอาจจะจับต้นชนปลายลำบาก
การวิจารณ์ตามทฤษฎีการเล่าเรื่อง
1.โครงเรื่อง (Plot)
ภาพยนต์เรื่องนี้มีโครงเรื่องแบบ วางโครงเรื่องมาดี มีปมหลาย ๆ ปม ที่คลี่คลายออกได้ทุก ๆ นาที ของหนัง
2.ความขัดแย้ง (Conflict)
หนังเรื่องนี้มีความขัดแย้งอยุ่ด้วยกัน 2 ประเภท
2.1 ความขัดแย้งระหว่างมนุษ์ด้วยกัน คือ ความถูกต้องกับความไม่ถูกต้อง ที่ผู้แทรกแซงหยิบยื่นให้
3.ตัวละคร (Character)
ตัวละครมีบุกคลิกกลม (Round Character)
4.แก่นเรื่อง (Theme)
แก่นเรื่องเป็นการปล้นเพื่อไม่ใช่ตัง แต่เพื่อความถูกต้องของคนกลุ่มๆนึง หรือการล้างแค้น
5.ฉาก (Setting)
ฉากส่วนใหญ่จะอยู่ในที่ ๆ เดิม ไม่ได้สร้างความน่าสนใจมากนัก มีไม่กี่ฉาก
6.สัญลักษณ์พิเศษ (Symbol)
สัญลักษณ์ทางกายภาพ เครื่องแต่งกายของโจรและตำรวจ
7.มุมมองในการเล่าเรื่อง (Point of view)
มุมมองบุคคลที่หนึ่งโดยการเล่าเรื่องผ่านตัวพระเอกโจร
วิจารณ์โดย 1. นายประสิทธิชัย เกิดสาย
2 .นายป้อมปืน ปานพวงแก้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น